วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

หมัอหุงข้าวมหัศจรรย์


เป็นธรรมดาที่พวกเราจะหุงข้าวก็ต้องใช้หม้อหุงข้าวอยู่แล้ว แต่เราลองมาเพิ่มประโยชน์ใช้สอยกับหม้อหุงข้าวใบนี้ของเราอีกดีมั้ย?
เช่น ใช้นึ่งซาลาเปา ขนมจีบ โดยเติมน้ำพอปริ่มมือเรา แล้ววางฐานรังผึ้ง ( หาซื้อได้ตามห้าง ไม่แพง ) เสร็จแล้ววางจานที่ใส่ซาลาเปา ขนมจีบลงไปนึ่งเลย ประมาณ 7-10 นาทีก็สุกแล้ว นิ่มอร่อยเชียว หรือจะใช้ต้ม ตุ๋นก็ยังไหวนะ ลองดูซิคะ ยังไงค่าไฟก็ยังถูกกว่าแก๊สละกัน

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อุ่นอาหารแบบมีกึ๋น


ใช่เลย....ยุคนี้เป็นยุคแม่บ้านต้องมีกึ๋น ทำอะไรแต่ละอย่างจะต้องรอบคอบ บริหารจัดการได้ทุกอย่างๆมีประสิทธิภาพ ทำนองว่ามือก็ไกวดาบก็แกว่งงัย ที่สำคัญเน้นที่ประหยัดทั้งเงินทองและเวลา เอาล่ะ! อย่างเวลาอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟ แทนที่จะอุ่นจานเดียว เราก็จัดการหาจานเปล่ามาซ้อนปิดด้านบนแล้ววางกับข้าวจานที่สองไว้ด้านบนซิ เท่านี้ก็ทำให้ไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าไฟเยอะ พลังงานหารสอง นำเทรนด์จริงๆ ฮิ ฮิ

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

หมุนเงินดีๆ


เฮ้อ! เศรษฐกิจทุกวันนี้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติกันมากขึ้นเนอะ ยื่งใครต้องใช้เงินอนาคตกันแล้ว ต้องพยายามยั้งใจ อย่ารูดปรื๊ดๆแบบที่โฆษณาล่ะ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องรูดจริงๆ เราก็พอมีวิธีเลี่ยงการชนกันของรายจ่ายได้ พวกเราคงจะถือบัตรคนละอย่างต่ำ 2 ใบใช่ม่า เราก็มาตรวจสอบรอบบิลที่ตัดบัญชีของแต่ละบัตร เช่น บัตรแรกตัดรอบบัญชีวันที่ 15 ส่วนบัตรที่สองตัดรอบบัญชีวันที่ 30 เป็นต้น เวลาเรารูดบัตรก็คิดเสียก่อนว่าวันนั้นวันที่เท่าไหร่ เช่น วันที่ 10 เราก็ควรรูดบัตรใบที่สองใช่มั้ย เพราะตัดรอบวันที่ 30 โน่นแน่ะ
ทำวิธีนี้ก็จะไม่ทำให้รายจ่ายประดังมาในบัตรใบเดียว เวลาเดียวกัน ทำให้เราหายใจคล่องขึ้นบ้าง แต่วิธีนี้คนถือบัตรใบเดียวหมดสิทธิใช้นะจ๊ะ ทางที่ดีพยายามอย่าใช้จ่ายเกินตัว ดีที่สุด เนาะ

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ย้อมผมธรรมชาติ



เวลาผ่านไปรวดเร็วจริง เผลอแว็บเดียวผมขาวมาเยือนกันแล้ว หลายๆคนหาวิธีไล่แขกผู้ไม่ได้รับเชิญโดยย้อมผม แต่สักพักมันก็กลับมาเยือนใหม่ ก็ต้องย้อมอีก จนผมที่เคยเงางามสุขภาพดี กลายเป็นแตกแห้งหยาบกระด้าง แย่เข้าไปอีก ทั้งเสียเงินครั้งละหลายๆร้อย หรืออาจเป็นพัน เรามาใช้วิธีธรรมชาติในการปิดผมขาวกันดีกว่า ทั้งประหยัดแล้วก็ไม่ทำลายเส้นผม ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย ลองใช้ผงเฮนน่าถุงละไม่กี่สิบบาทแถวตรอกอินเดีย ย่านพาหุรัด วิธีใช้ก็แสนง่าย แต่อาจจะต้องป้องกันความเลอะเทอะซะหน่อย ลองดูนะคะ
วิธีใช้ 1.เตรียมผงเฮนน่าประมาณ 150 กรัม สำหรับหนึ่งคน
2.ชงน้ำร้อน 100 ซีซี กับชาเนสท์ทีหรือยี่ห้ออื่นที่ถูกๆก็ได้ แต่ต้องเป็นชาถุงนะ แช่จนสีข้น
3.นำน้ำชามาเทใส่ถ้วยเฮนน่า แล้วคนผสมจนเนียนดี อาจเติมน้ำเย็นอีกได้ถ้าข้นเกินไป คนจนได้เป็นเนื้อครีมเนียน
4.เตรียมผ้าสีเข้มมาคลุมบ่า กันเลอะ
5.ล้างผมพอหมาด
6.สวมถุงมือ แล้วหาตะเกียบหรือแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วมาควักครีมเฮนน่าทาให้ทั่วศีรษะ แล้วขยี้ให้ทั่ว
7.ใช้หมวกคลุมผม แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ ครึ่งชั่วโมง หรือต้องการให้สีติดเข้ม ก็หมักซะ 1 ชั่วโมง
8.เสร็วแล้วสระผมให้สะอาด
ถ้าต้องการให้สีติดทั่วๆ ก็หมักติดต่อกันเดือนละครั้ง ทางที่ดีหาพี่ๆน้องๆให้ช่วยทำให้จะสะดวกที่สุดเลย สีผมจะออกน้ำตาลเข้มสวยงามทีเดียว แถมเส้นผมก็แข็งแรงดีด้วย
เคล็ด(ไม่)ลับ การหมักเฮนน่า หากเคยย้อมผมด้วยสารเคมีมาก่อน ควรทิ้งช่วงซะ 1 เดือนเพื่อให้สารเคมีเจือจาง จึงจะหมักเฮนน่าได้ประสิทธิภาพ

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ


เพื่อนๆ ลองมาทำปุ๋ยน้ำอินทรีย์เอง ดีกว่า สูตรจากคุณจิราภรณ์ คงธรรม เผยแพร่โดย โพสต์ทูเดย์

เตรียม เศษผักผลไม้ 3 กิโล น้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล 1 กิโล หัวเชื้อจุลินทรีย์ น้ำสะอาด

วิธีทำ 1.นำเศษผักผลไม้ที่มีในครัวทั้งเปลือก ใบ ผล และเมล็ด ผสมกับน้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน หากใช้กากน้ำตาลซึ่งค่อนข้างข้นควรกวนให้เข้ากัน

2.บรรจุใส่ถุงตาข่ายหรือถุงปุ๋ย วางลงในถังพลาสติก ปิดฝาให้เรียบร้อย

3.ประมาณ 10 วัน จะได้น้ำจุลินทรีย์ออกมา ให้เติมน้ำลงไป 5 เท่าของปริมาตรน้ำจุลินทรีย์ที่ได้ กดให้จมน้ำ หากลอยขึ้นมาจะทำให้การหมักไม่สมบูรณ์ เกิดกลิ่นเหม็นได้

4.สามารถเติมขยะสดเพิ่มลงไปได้ทุกวัน น้ำที่นำไปใช้ได้จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม กลิ่นหอมอมเปรี้ยวอมหวาน ส่วนกากสามารถนำไปตากให้แห้ง โรยเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ต่อไปได้

คุณสมบัติ

นอกจากมีธาตุอาหารที่ช่วยมให้พื่ชเจริญเติบโตได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุให้กลายเป็นปุ๋ยสำหรับพืช ทำให้ดินร่วยซุย และพัฒนาการเจริญเติบโตของพืช

วิธีใช้งาน

ผสมน้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 5 ลิตร ใช้ฉีดพ่นหรือรดลงในดินสัปดาห์ละครั้ง

ข้อควรระวัง

หากการหมักยังไม่สมบูรณ์ ปริมาณกรดและน้ำตาลยังสูงอยู่ จะส่งผลเป็นพิษต่อพืช

ข้อแนะนำ

1. หากผสมสมุนไพร เช่น สะเดา ตะไคร้หอม ยาสูบ ดีปลีหรือพริกขี้หนู โดยใส่ผงสมุนไพร 2-5 ช้อนโต๊ะ ลงไปในส่วนผสมของขั้นตอนการหมักปุ๋ยอินทรีย์น้ำแต่แรก จะสามารถใช้เป็นสารไล่แมลงได้ด้วย

2. สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำในการบำบัดน้ำเสียและกำจัดคราบไขมันอุดตันในท่อ โดยใช้ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:10 เทใส่ในท่อน้ำทิ้ง บ่อบำบัดไขมัน บ่อน้ำเสีย ทิ้งไว้ 1 คืนแล้วจึงราดน้ำตาม

3. ไม่ควรเก็บปุ๋ยน้ำไว้ในที่โดนแดด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส จะเก็บได้นาน 6 เดือน

4. ปุ๋ยน้ำมีธาตุอาหารค่อนข้างน้อย แต่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงโครงสร้างและคุณภาพดิน ดังนั้นจึงอาจใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงต้นไม้

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

น้ำยาล้างห้องน้ำอย่างประหยัด


เลิกเถอะ...เลิกใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นกรดทั้งหลาย เพราะนอกจากจะกัดกินเงินในกระเป๋าแล้ว ยังกัดกินมือไม้ กระเบื้อง จุลินทรีย์ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ช่วยย่อยสลายของเสียก็พลอยตายไปด้วย ลองหันมาใช้น้ำยาล้างจานแทนซิ ใช้ทำความสะอาดได้ไม่แพ้น้ำยาก๊าบๆแพงๆเลย ทั้งราคาก็ถู้กถูก 3 ถุง 40บาท เป็นต้น ใช้ได้หลายๆเดือนครอบจักรวาล สบายกระเป๋า สบายมือ สบายใจไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

การต้มน้ำกิน





หลีกเลี่ยงใช้เครื่องกรองน้ำ เพราะการกรองน้ำจนสะอาด100%ดื่ม เป็นความคิดที่ผิด เพราะแร่ธาตุ สำคัญๆเช่น แมกนีเซียม ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันการเกาะของคลอเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง และป้องกันการแข็งตัวของเลือด
จะหายไปด้วย จะทำให้เป็นโรคหัวใจกัน ส่วนการต้มน้ำดื่มโดยใช้แก๊สก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าแก๊ส(มีโอกาสแพงขึ้นเรื่อยๆนะจะบอกให้) ก็ถังหนึ่งตั้ง300บาทแน่ะ ใช้แก๊สทั้งทำกับข้าวแล้วก็ต้มน้ำ ไม่ถึงเดือนก็หมดถังแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นกาต้มน้ำไฟฟ้าซิ พอเดือดก็จัดการเทลงกาใหญ่ หลายรอบก็เต็มกาแล้ว รอให้เย็นก็กินได้ อ้อ!อย่าลึมปลดปลั๊กออกนะจ๊ะ จะได้ไม่เปลืองค่าไฟ วิธีนี้จะทำให้ยึดเวลาการใช้แก๊สไปได้อีกตั้ง 1 เดือนแน่ะ อ้อ! เวลาเอาปลั๊กออกต้องเอาออกทั้งหัวปลั๊กและฐานปลั๊กด้วยนะจ๊ะ ไฟจะได้ไม่ช็อต
ลองทำดูนะจ๊ะ